เท็ดดี้

--

(ผลงานที่ผ่านการคัดเลือก การแข่งขันประกวดเรื่องสั้นประจำเดือนสิงหาคม 2563 หัวข้อ ‘บาดแผล’ จัดโดยคณะกรรมการนิสิตอักษรศาสตร์)

โดย Samuel G.

Trigger Warning: Self Harm, Suicide

— — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — —

เท็ดดี้มีน้องชายฝาแฝดอยู่คนหนึ่ง ทั้งสองเหม็นหน้ากันมาตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ หมายถึงว่า เท็ดดี้โดนเกลียดอยู่คนเดียวเลยแน่ะ แล้วที่น้องตั้งแง่กับเขานักหนาก็เพราะว่าเท็ดดี้มีพลังวิเศษ เขามองเห็นบาดแผลในจิตใจของใครต่อใครได้ เสียเวลาไปเจ็ดปีกว่าจะรู้ตัวว่าสิ่งที่ตนเห็นมันไม่ใช่ว่าจะเห็นกันได้หมดทุกคน

เคยสะเทือนใจกับสิ่งใดมาก ๆ จนรู้สึกเหมือนมันปวดหนึบอยู่ข้างในจริง ๆ ไหมเล่า ทายาเท่าไรก็ไม่หาย เอาเข็มฉีดจิ้มลงไปตั้งมากมายก็ไม่มีวันดีขึ้น นั่นละ บาดแผลในความหมายของเท็ดดี้

ไม่มีใครเห็นอะไรเหมือนที่เขาเห็นเลยสักอย่าง

แผลนอกกายหลากหลายอย่างไร แผลในใจก็มีมากมายอย่างนั้น เท็ดดี้เห็นมาหมดแล้วละ เด็กน้อยที่เสียสุนัขตัวแรกของเธอไปด้วยวัยชรา พนักงานร้านของชำที่จำใจต้องฟังคำพูดแย่ ๆ จากลูกค้า หนักกว่านั้นหน่อยก็จิตรกรจบใหม่ที่เสียแขนข้างขวาไปเพราะอุบัติเหตุรถยนต์ หรือไม่ก็หนุ่มสาวสักคนที่ไล่ตามความฝันไม่ได้เพราะเงินในบัญชีมีไม่มากพอ ยิ่งเขาทำงานในวงการบันเทิง เท็ดดี้ยิ่งได้เห็นและรับรู้ เคยมีนักแสดงหญิงคนหนึ่ง รุ่นใหญ่เชียวแหละ เป็นดาวค้างฟ้าได้ไม่นานก็โดนวัยแก่เล่นงานจนเกษียณ ความนิยมของเธอตก ชื่อเสียงเองก็ถดถอย รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ตนไม่ได้สวยและเยาว์วัยอะไรขนาดนั้นอีกต่อไป แผลของเธอบาดลึกอยู่นะ ลึกยาวนานจนเริ่มกลับมาตื้น แถมตกสะเก็ดแห้งกรังอีกต่างหาก ถึงได้บอกว่าบาดแผลที่เท็ดดี้เห็นมันคือบาดแผลจริง ๆ แรก ๆ เขาก็แยกระหว่างแผลกายกับแผลใจไม่ค่อยออก แต่พอผ่านไปหลายปีเข้า ตอนนี้ขอแค่มองปราดเดียวก็รู้เอง

ฤดูร้อนหนหนึ่งเมื่อสามปีก่อนหน้า วันปิดกล้องครั้งแรกของชีวิต เท็ดดี้กลับบ้านมาเจอน้องชายนอนแอ้งแม้งอยู่บนโซฟา ไม่พูดไม่จา ทักทายสักคำก็ไม่มี เขาหยอกล้อไปว่า เมาแต่หัววันรึไง ทำไมเงียบเป็นเป่าสาก แต่แล้วพออีกฝ่ายพลิกตัวกลับมา สิ่งที่เท็ดดี้เห็นมันก็ยากมากที่จะลืม

เขาไม่เคยเจอบาดแผลแบบนั้นมาก่อนเลยในชีวิต

เท็ดดี้ยังกลับไปเยี่ยมแม่ที่บ้านอยู่ทุกเดือน น้องชายของเขาก็เหมือนกัน ท่านอยู่คนเดียวมาตั้งแต่ตอนที่หย่าขาดกับพ่อ มีลูกแฝดสองคนเป็นเหมือนยาทาแผลใจ น่าแปลกที่ทั้งคู่ห่างเหินออกจากกันมากขึ้นเรื่อย ๆ เท็ดดี้สังเกตเห็นรอยแผลใหม่ ๆ บนตัวน้อง และมันก็มีท่าว่าจะปรากฏขึ้นมาถี่ขึ้น ถี่ขึ้นทุก ๆ ที

ผ่านไปกี่ปีก็ยังไม่หาย

มันเป็นแผลสด บาดลึกพอ ๆ กับแผลของนักแสดงวัยเกษียณ บ้างเป็นแผลถลอก บ้างก็มีรอยเนื้อหลุดออกไปเป็นชิ้น ๆ เขาไม่รู้เลยว่ามันเกิดมาจากสาเหตุใด เท็ดดี้ตระหนักดีว่าน้องมองไม่เห็นอะไรพวกนี้หรอก แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าอีกฝ่ายจะเอะใจบ้างไหมหนอ ทำตัวตนหล่นหายไปมากมายขนาดนี้ ไม่มีทางเสียหรอกที่จะไม่รู้สึกอะไร

เขาอยากให้ตนกล้าพูดออกไปจังเลย บอกตรง ๆ ว่าเขาทั้งรัก ทั้งเป็นห่วง ว่าที่จริงแล้วเท็ดดี้ก็ไม่ได้เกลียดน้องหรอก ไม่ได้ใกล้เคียงคำว่าเกลียดเลยสักนิด เขาทำตัวแบบนี้แค่เพราะว่ามันเจ็บนักละที่ต้องเป็นคนโดนเกลียดอยู่ฝ่ายเดียว พลังวิเศษเปิดทางให้แล้ว บาดแผลของน้องต้องได้รับการรักษา เหลือเพียงแต่ว่าเขาต้องกล้าเท่านั้น เท็ดดี้หลับตาฝัน เฝ้ารอเวลาที่จะได้พูดออกไปอยู่ทุกวัน แต่ท้ายที่สุดแล้ว พอมีโอกาส เขาก็ไม่ทำ

จนกระทั่งวันที่น้องชายโทรศัพท์มาหาในรอบหลายปี

ตอนนั้น เท็ดดี้ไม่ได้คิดอะไร ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นหรือประหลาดใจด้วยซ้ำ เขาก็แค่รับสายไปอย่างนั้นเอง เสียงที่เท็ดดี้ได้ยินเป็นเสียงของน้องแน่ ๆ ละ มันราบเรียบ เนิบช้า ฟังดูสงบเป็นที่สุด แต่แล้วปลายสายก็สูดหายใจ พูดขึ้นมาหน้าตาเฉยว่า “พี่เอาแมวไปเลี้ยงต่อให้ฉันที”

“อะไรนะ” เขาถามซ้ำ คิ้วขมวดเข้าหากัน “พูดอะไรน่ะ”

“ฉันจะไม่กลับไปแล้ว”

“เดี๋ยวสิ ตอนนี้แกอยู่ไหน”

“ขอโทษที่พี่ต้องมาเห็นแผลของฉันเรื่อยเลย”

จู่ ๆ เท็ดดี้ก็หายใจไม่ถนัดขึ้นมา

“ราอูล ฟังกันก่อนได้ไหม — ”

“ลาล่ะนะ เท็ดดี้” เสียงลมดังก้องออกมาจากปลายทาง มันทั้งพัดทั้งตีอยู่อย่างนั้น สะท้อนทั่วโสตประสาท พาลทำให้เขาแสบแก้วหู “ขอให้พี่โชคดี”

แล้วสายก็โดนตัดทิ้งไป

เท็ดดี้รีบรุดออกมาจากกองถ่าย ระหว่างที่กำลังไขกุญแจติดเครื่องรถยนต์ มืออีกข้างหนึ่งก็กดเบอร์โทรศัพท์ไปด้วย หมุนพวงมาลัยรอบที่หนึ่ง แม่ของเขาสายไม่ว่าง หมุนพวงมาลัยรอบที่สอง คราวนี้เท็ดดี้โทรศัพท์ไปหาตำรวจ ระหว่างที่เท้ากำลังเหยียบมิดลงบนคันเร่ง ริมฝีปากก็พึมพำซ้ำไปซ้ำมาว่า ช่วยน้องชายของผมด้วย ได้โปรดเถอะ คุณตำรวจ ช่วยตามหาน้องชายของผมที

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร เขารีบที่สุดเท่าที่ตนจะรีบได้แล้ว แต่มหานครก็คือมหานคร สภาพการจราจรมีแต่จะรั้งเราไว้บนท้องถนน พอกลับไปถึงบ้าน เท็ดดี้ก็พรวดพราดเข้าไปในครัว ได้ยินเสียงกาน้ำชากำลังหวีดร้อง แม่ยืนอยู่ตรงนั้นเอง กำโทรศัพท์เครื่องเล็กเอาไว้ในมือ ตัวของท่านสั่นไปหมด ใบหน้าซีดขาวหันกลับมาอย่างเชื่องช้า เขามองเห็นบาดแผลของแม่ มันลากยาวอยู่บนอกข้างซ้าย ส่งกลิ่นคาวเหม็นคลุ้ง เลือดสีแดงข้นคลั่กไหลทะลักออกมา คลับคล้ายคลับคลากับว่าท่านกำลังจะตายทั้งเป็น

“เขาเจอน้องชายของลูกแล้วนะ เท็ดดี้” แม่ว่า จิตวิญญาณของท่านกำลังแตกสลาย พังทลายไม่เหลือชิ้นดี “เจออยู่ในแม่น้ำ”

แล้วคำพูดทั้งหมดทั้งมวลของแม่ก็มลายหายไป แทนที่ด้วยเสียงสะอื้นไห้ มันหน้าตาเป็นอย่างนี้เอง แผลของแม่คนหนึ่งที่เพิ่งสูญเสียลูกไป ท่านคู้ตัวลงราวกับจะโอบกอดตัวเองเอาไว้ แต่พอยิ่งขยับ เลือดจากปากแผลก็ยิ่งพากันเบียดตัวออกมามากกว่าเดิม

เท็ดดี้ทำอะไรไม่ถูกเลย เสียงกาน้ำเริ่มดังจนมันอื้ออึงอยู่ในหู เขาก้มมองช่วงอกของตัวเอง เห็นมันกำลังแยกออกและปริร้าว เนื้อฉีกขาดออกจากกัน เกิดเป็นแผลเหวอะหวะหน้าตาอัปลักษณ์ เท็ดดี้นิ่วหน้า ทรมาน เจ็บปวดจวนจะขาดใจ ชายหนุ่มกวาดตาไปทางซ้ายและทางขวา พยายามมองหาอะไรมาช่วยบรรเทา ผ้าสักผืน ยาสักหยด หาหมอมาช่วยเขาสักคน …แต่เพราะเท็ดดี้มีพลังวิเศษ

สุดท้ายก็ไม่มีใครมองเห็นบาดแผลในครั้งนี้เลย

--

--