ปวดหัว
(ผลงานที่ผ่านการคัดเลือก การแข่งขันประกวดเรื่องสั้นประจำเดือนสิงหาคม 2563 หัวข้อ ‘บาดแผล’ จัดโดยคณะกรรมการนิสิตอักษรศาสตร์)
โดย ภวิศ ธรรมวิทวัส
— — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — —
แผลที่หัวยังคงปวดตุบ ๆ
ฉันเปิดประตู เดินเข้าไปในห้องสัมภาษณ์ นั่งลงที่เก้าอี้กลางห้อง ด้านหน้าฉันมีอาจารย์อยู่สามท่าน
“สวัสดีค่ะ” ฉันพูด ยกมือไหว้
อาจารย์แต่ละท่านพลิกดูเอกสารขอทุนการศึกษาของฉันไปมา
“ทุนที่หนูจะขอเป็นทุนค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายรายเดือนใช่ไหม” อาจารย์ท่านหนึ่งถาม
“ใช่ค่ะ”
แอร์ในห้องสัมภาษณ์หนาวมาก ทำเอาฉันปวดแผลจนหน้านิ่ว
“หัวหนูไปโดนอะไรมา”
สงสัยอาจารย์จะเห็นสีหน้าของฉัน
“หนูตกบันไดค่ะ”
พอได้รับคำตอบ อาจารย์ก็เปลี่ยนไปคุยเรื่องทุน
“ขอบอกหนูไว้ก่อนนะ ว่านิสิตที่จะได้รับทุนการศึกษาของมหา’ลัยเนี่ย ต้องเป็นนิสิตที่มีความจำเป็นจริง ๆ เท่านั้น เพราะทุนของเรามีจำกัด อาจารย์ขอสอบถามเรื่องที่บ้านหนูหน่อยนะ ฐานะของที่บ้านหนูเป็นยังไงบ้าง”
“ที่บ้านหนูฐานะปานกลางค่ะ คุณพ่อเป็นพนักงานบริษัท ส่วนคุณแม่เป็นแม่บ้านค่ะ ทุกวันนี้อยู่ได้ด้วยรายได้จากคุณพ่อซึ่งพักหลังมานี้ก็ไม่ค่อยพอเท่าไหร่ หนูเลยตัดสินใจมาขอทุนค่ะ”
“ทำไมพักหลังมานี้รายได้ของคุณพ่อหนูถึงไม่พอล่ะ มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า”
“คุณพ่อหนูมีปัญหาเรื่องงานนิดหน่อยค่ะ”
“เพราะเรื่องโควิดใช่ไหม”
“ไม่ใช่ค่ะ ปัญหาเรื่องอื่น”
อาจารย์ทั้งสามท่านนิ่งเงียบไป
“หนูขอปรึกษาอะไรหน่อยได้ไหมคะ หนูเก็บเรื่องนี้ไว้กับตัวมานานมากแล้ว อยากระบายอะค่ะ อาจารย์ช่วยรับฟังหน่อยได้ไหมคะ”
“ได้สิ”
“ที่จริงแล้ว คุณพ่อหนูเขามีปัญหาค่ะ พักหลังมานี้เขาติดเหล้ามาก ที่เขาไปทำงานไม่ค่อยได้ก็เพราะเหล้า หนูไม่รู้จะทำยังไงจริง ๆ” ฉันหลุบตาลง
“หนูลองคุยกับคุณพ่อตรง ๆ ตอนที่ท่านมีสติไหม เผื่อจะช่วยกันแก้ปัญหาได้”
“อาจารย์คะ หนูคุยจนไม่รู้จะคุยยังไงแล้วค่ะ คุยทีไรเป็นได้ทะเลาะกันทุกที ทะเลาะกับหนูคนเดียวไม่ว่า บางทีเขาก็ไปลงกับแม่ด้วย”
อาจารย์มองหน้ากันเลิ่กลั่ก แล้วก็หันมาพูดกับฉันต่อ
“แผลที่หัวหนูไม่ได้เกี่ยวกับพ่อหนูใช่ไหม”
ฉันนิ่งเงียบ สีหน้าที่เหมือนจะร้องไห้ของฉันยิ่งทำให้อาจารย์ตกใจ
“จริง ๆ แล้วหนูไม่ได้ตกบันไดค่ะอาจารย์”
สิ้นประโยค น้ำตาก็หลั่งไหลออกมาเหมือนเขื่อนแตก
“เรื่องทั้งหมดมันเป็นยังไง เล่าให้อาจารย์ฟังหน่อย พวกอาจารย์จะช่วยหนูเอง ไม่ต้องห่วง”
“เมื่อคืนพ่อเขาเมาหนักมาก แม่พูดอะไรนิดหน่อยเขาก็คิดว่าแม่ด่า เขาเลยอาละวาดตีแม่หนู หนูทนไม่ได้เลยเข้าไปขวางไว้ จนหัวเป็นอย่างนี้ค่ะอาจารย์” ฉันพูดไปร้องไห้ไป
อาจารย์ผู้ชายที่นั่งตรงกลางยื่นทิชชู่ให้ฉันซับน้ำตา
“จะทุบตีหนูยังไงหนูทนได้ แต่อย่ามาทำแม่หนู”
“นิสิตใจเย็น ๆ ก่อน ค่อย ๆ แก้ปัญหาไปทีละเรื่องนะ ตอนนี้พักก่อน ไม่ต้องเล่าต่อแล้ว อาจารย์เข้าใจสถานการณ์ที่บ้านหนูแล้ว”
“เรื่องทุนหนูไม่ต้องเป็นห่วงนะ” อาจารย์อีกท่านหนึ่งพูดขึ้น
“ขอบพระคุณมากค่ะอาจารย์ ที่รับฟังหนู” ฉันยกมือไหว้ น้ำตายังคงไหลริน
หลังจากวันนั้น ฉันก็ติดตามประกาศผลการขอรับทุนทุกวัน
จนวันหนึ่งฉันก็พบชื่อตัวเองอยู่บนเว็บไซต์คณะ
ฉันดีใจมาก จนรีบวิ่งไปบอกแม่ที่ทำกับข้าวอยู่ในห้องครัว
แต่ยังไม่ทันจะถึงห้องครัว มีอะไรบางอย่างแหลม ๆ ทิ่มฝ่าเท้าของฉัน
“โอ๊ย!” ฉันร้อง มันเจ็บมาก
ฉันรีบพลิกฝ่าเท้าขึ้นมาดู เลือดไหลซิบ ๆ สิ่งที่ทิ่มเท้าฉันอยู่คือเศษแจกันที่เคยหล่นแตก
‘นึกว่ากวาดทิ้งไปหมดแล้วเชียว’ ฉันคิด นึกโมโหไอ้แจกันบ้า ๆ นี่
แต่แล้ว อารมณ์ขุ่นมัวในใจฉันก็หายไป เพราะฉันนึกขึ้นได้ว่า ถ้าวันนั้นแจกันนี้ไม่หล่นลงมา ฉันอาจจะไม่ได้รับทุน