ประสบการณ์สุดประหลาดที่ฉันเจอมาตั้งแต่จำความได้

--

(ผลงานที่ผ่านการคัดเลือก การแข่งขันประกวดเรื่องสั้นประจำเดือนสิงหาคม 2563 หัวข้อ ‘บาดแผล’ จัดโดยคณะกรรมการนิสิตอักษรศาสตร์)

โดย นภัสวัลย์ ทองสุวรรณ์

— — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — —

ประสบการณ์สุดประหลาดที่ฉันเจอมาตั้งแต่จำความได้

#สิ่งลี้ลับ #Mystery

สวัสดีค่ะผู้อ่านทุกท่าน เราขอแทนตัวเองว่าแพรนะคะ แพรตั้งกระทู้ในเว็บไซต์นี้เป็นครั้งแรก และคิดว่าสิ่งที่กำลังจะเล่าน่าจะเข้ากับแท็กนี้ที่สุดแล้วค่ะ แพรใช้เวลาคิดเรื่องการที่จะแชร์เรื่องนี้นานมาก เพราะกลัวจะถูกมองว่าเป็นตัวประหลาด แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจจนได้ว่าจะแชร์ประสบการณ์นี้ แพรอยากให้คนได้รับรู้ในสิ่งที่แพรเจอมาตลอด และเตือนให้ทุกคนได้ระวังค่ะ

เริ่มมาจากที่ตั้งแต่จำความได้ แพรจะเห็นทุกคนมี “อุปกรณ์” เป็นของตัวเอง ของแต่ละคนจะมีลักษณะแตกต่างกันออกไป ส่วนมากจะเป็นของที่มีคมเช่น มีด ขวาน เข็มเย็บผ้า เลื่อย ฯลฯ ทุกคนจะพก “อุปกรณ์” ประจำกายนี้ติดตัวเสมอ แพรเองก็มีเช่นเดียวกัน ตอนแพรยังเด็ก “อุปกรณ์” ของแพรจะเป็นไม้จิ้มฟันอันเล็ก ๆ ซึ่งจะพกติดตัวตลอด ตอนนั้นแพรคิดว่าเป็นเรื่องปกติ แพรยังเคยทักแม่ไปเลยว่า “แม่พกอะไรติดตัวอยู่เหรอคะ สวยจัง ของหนูมีแค่ไม้อันเล็ก ๆ เอง” พร้อมชี้ไปที่มือที่แม่ถือมีดเล่มหนึ่งอยู่ แล้วยังหยิบไม้จิ้มฟันอันน้อย ๆ ของตัวเองให้แม่ดูด้วย แต่แม่กลับมองมาที่แพรเหมือนกับแพรเป็นตัวประหลาด บอกกับแพรว่า “เพ้อเจ้ออีกแล้ว” แล้วเอามีดเล่มนั้นมากรีดเบา ๆ ลงบนแขนของแพรจนเป็นแผล ตอนนั้นแพรทั้งรู้สึกเจ็บ เสียความมั่นใจและสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น ตั้งแต่นั้นมาจึงไม่ค่อยกล้าทักเกี่ยวกับเรื่อง “อุปกรณ์” กับใครอีกเลย

นอกจาก “อุปกรณ์” ที่ดูเหมือนแพรจะเห็นอยู่คนเดียวแล้ว ยังมีบาดแผลที่แพรจะเห็นบนตัวของทุกคน มีทั้งบาดแผลขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ บาดแผลที่ดูสดใหม่ เป็นรอยเหวอะหวะก็มี บาดแผลที่เริ่มตกสะเก็ด แผลเป็น แผลจากการโดนของมีคม รอยฟกซ้ำจากการโดนบางอย่างทุบและอื่น ๆ อีกมากมายสารพัดรูปแบบแผลที่สามารถเกิดกับร่างกายได้ แพรสังเกตว่ายิ่งมีอายุมากยิ่งมีบาดแผลตามตัวเยอะมากขึ้น บนตัวของแพรก็มีบาดแผล ซึ่งมักจะเกิดจากการที่คนเอา “อุปกรณ์” ของตัวเองมากรีดบนตัวแพร และแน่นอน ทุกคนดูเหมือนจะไม่รู้เรื่องนี้ด้วยเช่นกัน

ตอนเด็ก ๆ แพรไม่ชอบการที่ถูกของมีคมมาโดนที่ร่างกายมาก ๆ เพราะมันทำให้เกิดบาดแผลบนตัวไปตลอด แผลที่เกิดจาก “อุปกรณ์” มักจะหายช้ามาก ๆ หรือไม่หายเลย ซึ่งต่างจากแผลเวลาหกล้มที่หายได้ในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ บาดแผลบนตัวของแพรมักจะมาจากพ่อกับแม่อยู่บ่อยครั้ง พี่ชายของแพรก็เคยเอาใบมีดโกนของเขามากรีดที่ตัวแพร คุณครูที่โรงเรียนก็ชอบเอามีดเล่มใหญ่มากรีดตามตัวของนักเรียนและตัวแพรเช่นกัน ในตอนเด็ก แพรยังไม่สามารถควบคุม “อุปกรณ์” ของแพรได้ดีนัก บางทีก็เอาไม้จิ้มฟันไปจิ้มเพื่อนในห้อง โดยที่ไม่ได้ตั้งใจ มันมักจะเกิดขึ้นหลังจากที่พูดอะไรบางอย่างไม่ดีกับคนนั้นออกไปเสมอ เมื่อพูดออกไปแล้ว แม้ไม่ได้ตั้งใจ จะพยายามยั้งมือยังไง ก็ไม่สามารถหยุดเอา “อุปกรณ์” ไปทำร้ายคนอื่นได้ แผลจากไม้จิ้มฟันของแพรอาจจะเล็ก แต่มันก็ทำให้เกิดบาดแผลกับคนอื่นอยู่ดี

เพื่อนสนิทคนหนึ่งตอนที่แพรเรียนอยู่ป. 1 เคยเอาส้อมมาขูดที่ไหล่แพรหลังจากที่พูดว่า “ไอ้คนฟันเหยิน” เพราะเราสองคนทะเลาะกันเรื่องที่แพรไม่เรียงดินสอสีของเพื่อนคนนั้นให้เหมือนเดิม ตอนนั้นแพรโกรธมาก เลยตอบกลับเพื่อนคนนั้นด้วยคำที่คิดว่าจี้ใจดำที่สุด “ไอ้ลูกพ่อแม่ทิ้ง” ไม้จิ้มฟันในมือแพรหายไปตอนไหนแล้วก็ไม่รู้ ตอนนั้นมันดันกลายเป็นมีดปอกผลไม้เล็ก ๆ แทน ก่อนที่จะทันรู้ตัว แพรก็เอามีดกรีดลงไปบนหน้าผากของเพื่อนคนนั้นซะแล้ว เกิดบาดแผลใหญ่บนหน้าผาก เลือดไหลออกมาตามใบหน้า เพื่อนคนนั้นน้ำตาไหลก่อนที่ครูจะเข้ามาแยกเราสองคนออกจากกัน แล้วเราก็ไม่คุยกันอีกเลย ทุกครั้งที่แพรเห็นบาดแผลบนหน้าผากของเพื่อนคนนั้น ถึงตอนนั้นเธอจะไม่ได้ร้องไห้แล้ว แต่บาดแผลนั้นมียังคงเป็นบาดแผลสด มีลักษณะไม่ต่างจากตอนที่เพิ่งโดนกรีดเลย เป็นภาพที่น่ากลัวสำหรับแพรมาก ๆ ซึ่งแพรก็รู้สึกผิดที่ทำลงไป แต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไร และบาดแผลนั้นจะเป็นรอยที่จะอยู่ติดตัวเพื่อนคนนั้นไปอีกนาน

พอเริ่มโตขึ้น แพรก็เริ่มควบคุมการใช้ “อุปกรณ์” ได้บ้างแล้ว แพรระมัดระวังมากขึ้นไม่ให้เผลอเอา “อุปกรณ์” ไปสร้างบาดแผลให้คนอื่น เพราะรู้ดีว่าภาพที่เกิดขึ้นมันดูโหดร้ายมาก ๆ บางครั้งก็เห็นเพื่อนเอามีดมาทำร้ายกันเอง แพรก็ช่วยเตือนให้หยุดและอธิบายสิ่งที่เห็นให้ฟัง แต่เพื่อนก็มองเหมือนแพรเป็นตัวประหลาด “ประสาท! ไปเช็คสมองบ้างนะ” เพื่อนคนนั้นพูดพร้อมกับเอามีดมากรีดที่ต้นแขน เพิ่มบาดแผลให้แพรอีกหนึ่งรอย

ถึงแม้ว่าแพรจะระมัดระวังการใช้ “อุปกรณ์” แต่ก็ยังมีคนใช้ “อุปกรณ์” กับแพรอยู่ตลอด ไม่เว้นแม้แต่คนในครอบครัวแพรเอง อันที่จริง บาดแผลบนตัวของแพรส่วนมากก็มักจะมาจากคนที่ใกล้ชิดแพรเสมอ โดยเฉพาะวันรวมญาติ วันที่แพรเกลียดที่สุด

วันนั้นจะเป็นวันที่พ่อกับแม่จะชอบเล่าเรื่องเกี่ยวกับพี่ชายที่อายุห่างกัน 3 ปีของแพรให้ญาติฟังอย่างภาคภูมิใจ พี่ชายของแพรเป็นคนที่เรียนเก่ง มักจะสอบได้อันดับต้น ๆ ของชั้นเรียนเสมอ เป็นนักกีฬาฟุตบอลตัวแทนโรงเรียน และมีรูปร่างสูงโปร่ง ร่างกายกำยำอย่างนักกีฬา “ไม่เหมือนไอ้แพรมัน…” ประโยคที่พ่อแม่มักจะพูดหลังจากที่กล่าวชื่นชมลูกชายคนโตก่อนที่จะสาธยายข้อเสียต่าง ๆ ของแพรให้ญาติ ๆ ฟัง ทั้งเรื่องผลการเรียนที่ไม่โดดเด่นเท่ากับพี่ชาย เรื่องรูปร่างที่อวบและไม่สูงตามมาตรฐาน ฟันเหยิน และอื่น ๆ อีกมากมายที่สรรหามาเล่าให้ฟัง พ่อกับแม่สารธยายสิ่งนี้ไปพร้อมกับเอามีดและเลื่อยเล็ก ๆ มาเฉือนที่ตัวแพร ไม่มีใครรับรู้ความเจ็บปวดนี้นอกจากแพร พ่อกับแม่มักจะชอบพูดติดตลกอีกว่าพี่ชายแพรแย่งดีเอ็นเอส่วนดีไปหมด ไม่เก็บให้แพรที่เป็นน้องสาวเลย แล้วทุกคนก็หัวเราะกันอย่างสนุกสนานโดยหารู้ไม่ว่าตัวเองกำลังเอา “อุปกรณ์” มากรีดและเฉือนทำร้ายแพรอยู่ คนที่โดนหัวเราะซึ่งก็คือแพรนั้นมีบาดแผลเหวอะหวะเต็มตัวไปหมด เหตุการณ์คล้าย ๆ กันนี้ก็มักจะเกิดขึ้นเสมอ รอยแผลถูกกรีดทำซ้ำ ๆ จากคนที่ใกล้ชิด แพรพูดอะไรไม่ได้ หากพูดออกไปก็อาจจะถูกมองว่าเป็นตัวประหลาดหรือเป็นคนก้าวร้าวต่อหน้าผู้ใหญ่ได้

นี่ก็คือประสบการณ์สุดประหลาดและโหดร้ายส่วนหนึ่งที่แพรเจอมาตั้งแต่จำความได้ แพรไม่รู้ว่ามีใครเจอประสบการณ์เหมือนแพรบ้างมั้ย ถ้ามีก็ติดต่อมาพูดคุยกันได้ค่ะ คิดว่ามีคนที่เข้าใจความรู้สึกก็น่าจะดี แต่อีกใจก็ภาวนาว่าไม่อยากให้มีใครต้องเห็นภาพที่แพรเห็นมาตลอดเลย แพรอยู่กับภาพการใช้ “อุปกรณ์” ทำร้าย และภาพบาดแผลบนตัวของทุกคนมาหลายปี ภาพมันโหดร้ายมาก ๆ ที่แพรมาแบ่งปันประสบการณ์ให้ทุกคนได้รู้ก็เพื่อจะแสดงให้ทุกคนเห็นว่าคำพูดของเรามันสามารถทำให้เกิดบาดแผลกับคนอื่นได้ เราอาจจะไม่รู้ตัว แต่มือที่ถือ “อุปกรณ์” ของทุกคนนั้นได้สร้างบาดแผลให้กับคนที่ฟังไปแล้ว บางคนอาจจะไม่เชื่อสิ่งที่แพรเล่า เพราะมันเป็นเรื่องที่ดูประหลาดเกิดกว่าจะเป็นเรื่องจริงได้ ก็ย่อมมีสิทธิ์ไม่เชื่อค่ะ แพรเข้าใจ แพรทำได้แค่เพียงเล่าความจริงของแพรที่เจอมาเท่านั้น แพรอยากให้ทุกคนระวังการใช้คำพูดให้มากขึ้น หยุดสร้างบาดแผลให้กับคนอื่นด้วยคำพูดร้าย ๆ กันเลย แพรสามารถเห็นบาดแผลของทุกคนค่ะ ส่วนคนอื่น ๆ เมื่อมองด้วยตาเปล่าเราอาจจะไม่เห็นบาดแผลบนตัวของคนอื่นหรือตัวของเรา แต่แพรเชื่อว่าผู้อ่านเองก็น่าจะรู้ตัวดีค่ะ ว่าตัวเองและคนอื่น ๆ นั้นมีบาดแผลที่มองไม่เห็นอยู่เช่นกัน

สมาชิกหมายเลข 2581999

13 สิงหาคม 2563 เวลา 03:03 น.

--

--